
เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ซัดคนเดียวสองประตูช่วย “อินทรีฟ้า-ขาว” ลาซิโอ บุกอัด ซาสซูโอโล่ 3-0 ส่งผลให้แซงขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตารางคะแนน ขณะที่ “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า ได้ประตูต้นเกมเฉือน คิเอโว เวโรน่า 1-0 ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561
ซาสซูโอโล่ 0 – 3 ลาซิโอ
สนาม : มาเปอี สเตเดี้ยม
เว็บแทงบอลออนไลน์ ซาสซูโอโล่ เจองานหนักในการเฝ้ารังรอรับ ลาซิโอ โดยเจ้าถิ่นต้องไร้ เอโดอาร์โด้ โกลดานิก้า ที่ติดแบน พร้อมปรับบางจุด แต่ยังมี โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, คูมา บาบาการ์ และ มัตเตโอ โปลิตาโน่ เป็นทีเด็ดในแนวรุก ฟากผู้มาเยือนได้ ลูคัส เลว่า พ้นโทษพักแข้ง และหมุนเวียนทีมบางตำแหน่ง ข้างหน้าเลือก เฟลิเป้ อันแดร์สัน กับ ชิโร่ อิมโมบิเล่
เปิดฉากเพียง 7 นาที “อินทรีฟ้า-ขาว” ได้ประตูอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ส่องไกลด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษแฉลบ ฟรานเชสโก้ มันยาเนลลี่ บอลลอยย้อยเสียบใต้คานเข้าไป ขึ้นนำ 1-0
โดนแบบนี้เจ้าบ้านอยู่เฉยไม่ได้ เบราร์ดี้ กระหน่ำด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 20 หลา บอลตรงตัว โธมัส สตราโคชา รับเข้าซองไม่มีปัญหา
ผ่านมาถึงนาทีที่ 31 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ หลัง เฟเดริโก้ เปลูโซ่ ไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ และเป็น อิมโมบิเล่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด หนีห่าง 2-0
จากนั้นทั้งสองทีมไม่มีอะไรเพิ่มเติม จบ 45 นาทีแรก ลาซิโอ จึงออกนำไปก่อน 2-0
ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 2 นาที สกอร์ไหลเป็น 3-0 แล้ว เมื่อ อันแดร์สัน ครอสจากขวาเข้าเขตโทษให้ มิลินโควิช-ซาวิช โหม่งตุงตาข่าย พร้อมเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในแมตช์นี้ด้วย
สถานการณ์ของ “เนโรแวร์ดี้ ย่ำแย่ไปกันใหญ่ เมื่อต้องมาเหลือ 10 คนในนาทีที่ 54 หลัง เบราร์ดี้ ไปทำฟาวล์หนักใส่ สเตฟาน ราดู ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นมาได้ลุ้น โปลิตาโน่ ไหลเข้าเขตโทษทางขวาให้ เคลาด์ อัดยาปง ยิงมุมแคบ ทว่า สตราโคชา ยังเซฟได้เยี่ยม
พลพรรค “เบียงโคเชเลสเต้” มาเหลือ 10 คนเหมือนกันในนาทีที่ 62 เมื่อ อดัม มารูซิช ไปศอกใส่ โรเจริโอ หลังตัวเองโดนทำฟาวล์ เชิ้ตดำจึงชักใบแดงทันที
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ผ่อนลงไป และไม่มีอะไรแล้ว จบเกม ลาซิโอ โชว์ฟอร์มเยี่ยมด้วยการบุกถล่ม ซาสซูโอโล่ 3-0 คว้า 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ซาสซูโอโล่ : อันเดรีย คอนซิยี่ – เคลาด์ อัดยาปง, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เฟเดริโก้ เปลูโซ่, โรเจริโอ – ลูก้า มัซซิเตลลี่, ฟรานเชสโก้ มันยาเนลลี่, ซิโมเน่ มิสซิโรลี่ – โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, คูมา บาบาการ์, มัตเตโอ โปลิตาโน่
ลาซิโอ : โธมัส สตราโคชา – วัลเลซ, หลุยซ์ เฟลิเป้, สเตฟาน ราดู – อดัม มารูซิช, อเลสซานโดร มูร์จา, ลูคัส เลว่า, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, จอร์แดน ลูกากู – เฟลิเป้ อันแดร์สัน – ชิโร่ อิมโมบิเล่

ฟิออเรนติน่า 1 – 0 คิเอโว เวโรน่า
สนาม : อาร์เตมิโอ ฟรังคี่
เจ้าบ้าน ฟิออเรนติน่า ประสบปัญหาที่ นิโกล่า มิเลนโควิช และ มิลาน บาเดลจ์ พร้อมใจกันโดนพักแข้ง ทำให้ต้องปรับเล็กน้อย โดยเลือกส่ง โจวานนี่ ซิเมโอเน่ เล่นหน้าคู่กับ ดีเอโก้ ฟัลชิเนลลี่ เลย ขณะที่ผู้มาเยือน คิเอโว เวโรน่า ฝากความหวังไว้ที่ โรแบร์โต้ อินเกลเซ่ และ มานูเอล ปุชชาเรลลี่
ผ่านมาแค่ 6 นาที “ม่วงมหากาฬ” ได้ประตูแล้ว เมื่อ ดาวิเด้ อัสตอรี่ ไหลให้ คริสเตียโน่ บิการี ตะบันด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0
ลูกทีมของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ บุกต่อเนื่อง อัสตอรี่ วางยาวจากแดนหลัง ซิเมโอเน่ ป้ายต่อให้ ฟัลชิเนลลี่ ซัดด้วยขวาข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 41 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกเตะมุม เฟเดริโก้ เคียซ่า เปิดเข้ากลางให้ อัสตอรี่ เทกตัวโหม่งข้ามคาน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก “ลาบิน” ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก หลัง อเลสซานโดร กัมเบรินี่ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ส่ง ดาริโอ ดาอิเนลลี่ ลงเล่นแทน จบ 45 นาทีแรก ฟิออเรนติน่า ออกนำก่อน 1-0
ครึ่งหลัง โรลันโด้ มารัน แก้เกมด้วยการถอด ซามูเอล บาสเตียน ออก เติมแนวรุกด้วย ริคคาร์โด้ เมจจอรินี่
นาทีที่ 56 เจ้าบ้านส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายอีกครั้ง จอร์แดน แวร์กตูต์ เตะมุมเข้าเขตโทษ ซิเมโอเน่ โขกเช็ดต่อให้ มาร์โก เบนัสซี่ โหม่งเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าแล้ว
ทีมเยือนสวนบ้าง เปอร์ปาริม เฮเตมาย ครอสเข้ากลางให้ ลูคัส คาสโตร โขกติดเซฟ มาร์โก สปอร์ติเอลโล่
พลพรรค “วิโอล่า” ตั้งลำใหม่ นาทีที่ 73 เคียซ่า เปิดลูกเตะมุมให้ ซิเมโอเน่ เทกตัวโหม่ง ทว่า สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ ยังเซฟได้เยี่ยม
ช่วงเวลาที่เหลือ ลูกทีมของ มารัน ยังไม่ยอมพยายามบุกหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่แนวรับเจ้าถิ่นยังเล่นกันได้เหนียวแน่น จบเกม ฟิออเรนติน่า เฉือนชนะ คิเอโว 1-0 เก็บ 3 แต้มเต็ม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ฟิออเรนติน่า : มาร์โก สปอร์ติเอลโล่ – เกร์มัน เปซเซลล่า, วิตอร์ ฮูโก้, ดาวิเด้ อัสตอรี่ – เฟเดริโก้ เคียซ่า, มาร์โก เบนัสซี่, เซบาสเตียน คริสโตโฟโร่, จอร์แดน แวร์กตูต์, คริสเตียโน่ บิรากี – โจวานนี่ ซิเมโอเน่, ดีเอโก้ ฟัลชิเนลลี่
คิเอโว : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ – ฟาบริซิโอ คัชชาตอเร่, มัตเตีย บานี่, อเลสซานโดร กัมเบรินี่, พาเวล ยารอสซีนสกี้ – ซามูเอล บาสเตียน, อีวาน ราโดวาโนวิช, เปอร์ปาริม เฮเตมาย – ลูคัส คาสโตร – โรแบร์โต้ อินเกลเซ่, มานูเอล ปุชชาเรลลี่